สถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ จัดงานเลี้ยงรับรอง เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2563 และงานเลี้ยงรับรองเนื่องในโอกาสการครบรอบ 70 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – สปป. ลาว

สถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ จัดงานเลี้ยงรับรอง เนื่องในวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2563 และงานเลี้ยงรับรองเนื่องในโอกาสการครบรอบ 70 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – สปป. ลาว

วันที่นำเข้าข้อมูล 6 ธ.ค. 2563

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 30 พ.ย. 2565

| 8,276 view

          เมื่อค่ำวันที่ 4 ธันวาคม 2563 สถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ ได้จัดงานเลี้ยงรับรองเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม 2563 และงานเลี้ยงรับรองเนื่องในโอกาสครบรอบ 70 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย - สปป. ลาว โดยได้รับเกียรติจากนายสะเหลิมไซ กมมะสิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่ง สปป. ลาว เป็นแขกเกียรติยศของ สปป. ลาว ร่วมด้วยผู้แทนระดับสูงของฝ่ายลาว ได้แก่​ รศ. ดร. บุนกอง สีหาวง รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขแห่ง สปป. ลาว นายเหียม พมมะจัน ประธานสมาคมลาว - ไทยเพื่อมิตรภาพ ดร. กิแก้ว จันทะบูลี รองรัฐมนตรีกระทรวงแผนการและการลงทุน และนางสิลิกิด บุบผา รองประธานศูนย์กลางสหพันธ์แม่หญิงลาว นอกจากนั้น ยังมีผู้แทนจากภาคส่วนต่าง ๆ ของไทย และ สปป. ลาว คณะทูตานุทูตและผู้แทนองค์การระหว่างประเทศเข้าร่วมงานราว 450 คน

          ในโอกาสดังกล่าว นางสาวอุรวดี ศรีภิรมย์ อุปทูตฯ สถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ ได้กล่าวสุนทรพจน์ น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ และความสัมพันธ์อันใกล้ชิดยาวนานระหว่างไทยและสปป. ลาว ที่จะครบรอบ 70 ปี ในวันที่ 19 ธันวาคมนี้ การเสด็จพระราชดำเนินเยือน สปป. ลาว ของพระบรมวงศานุวงศ์ โดยเฉพาะการเสด็จพระราชดำเนินเยือน สปป. ลาว ครั้งประวัติศาสตร์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ  สยามบรมราชกุมารี เมื่อวันที่ 8 - 9 เมษายน 2537 (ค.ศ.1994)โดยทรงเป็นประธานร่วมกับ ฯพณฯ หนูฮัก พูมสะหวัน ประธานประเทศแห่ง สปป. ลาวในขณะนั้น โดยมี ฯพณฯ คำไต สีพันดอน นายกรัฐมนตรีแห่ง สปป. ลาว ในขณะนั้น เข้าร่วมด้วย ในพิธีเปิดสะพานมิตรภาพไทย - ลาว แห่งแรก (หนองคาย - เวียงจันทน์) และพิธีเปิดศูนย์พัฒนาและบริการด้านการเกษตรห้วยซอน - ห้วยซั้ว (หลัก 22) อันเป็นโครงการพระราชดำริแห่งแรกใน สปป. ลาว ตามคำกราบบังคมทูลขอพระราชทานของ ฯพณฯ ไกสอน พมวิหาน ประธานประเทศแห่ง สปป. ลาว คนก่อนหน้า        

          อุปทูตฯ ได้กล่าวถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทยกับ สปป. ลาว ที่พิเศษยิ่งกว่าการเป็นประเทศเพื่อนบ้าน แต่เหมือนดั่งญาติมิตร จากการมีวัฒนธรรม ประเพณี และภาษาที่คล้ายคลึงกัน และประชาชนผูกพันกันปัจจุบันมีสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแล้ว  4 แห่ง ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน และส่งเสริมผลประโยชน์ร่วมทางเศรษฐกิจ และในปีหน้า จะมีพิธีวางศิลาฤกษ์สะพานมิตรภาพแห่งที่ 5 (บึงกาฬ-บอลิคำไซ) ด้วย ชาวไทยและชาวลาวต่างมีความปรารถนาดีต่อกัน เอื้อเฟื้อ และห่วงใยกัน ดังจะเห็นได้จากเมื่อเกิดอุทกภัยที่แขวงอัตตะปือ และรัฐบาลทั้งสองประเทศได้ประกาศ “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เพื่อความเจริญเติบโตและการพัฒนาอย่างยั่งยืน” เมื่อปี 2561 (2018) ซึ่งเป็นเจตนารมณ์ร่วมกันในการส่งเสริมความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน ตลอดจนพัฒนาประเทศให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน โดยรัฐบาลไทยมีความพร้อมที่จะสานต่อและขยายความร่วมมือในสาขาที่ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งชื่นชมและเชื่อมั่นต่อมาตรการป้องกันและสะกัดกั้นโรคโควิด 19 ของลาว พร้อมส่งเสริมความร่วมมือทางการแพทย์และสาธารณสุขกับ สปป. ลาว เพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด 19 และสนับสนุนซึ่งกันและกันในการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบจากวิกฤตดังกล่าวตามที่รัฐมนตรีต่างประเทศของทั้งสองประเทศได้หารือร่วมกันทางไกล

          นายสะเหลิมไซ กมมะสิด รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่ง สปป. ลาว ได้กล่าวสุนทรพจน์ โดยแสดงความยินดีในนามรัฐบาลลาวและประชาชนชาวลาว ในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ และครบรอบ 70 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – สปป. ลาว และกล่าวถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและแน่นแฟ้นระหว่าง สปป. ลาวและไทยในทุกมิติ ทั้งความร่วมมือด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สาธารณสุข เกษตรกรรม การพัฒนาโครงการพื้นฐานที่ส่งเสริมการเป็นศูนย์กลางความเชื่อมโยงและเชื่อมต่อระเบียงเศรษฐกิจในอนุภูมิภาค โดยปัจจุบันมีสะพานมิตรภาพ 4 แห่ง และอยู่ระหว่างการสร้างแห่งต่อไป รวมทั้งการสร้างความเชื่อมโยงระหว่างรถไฟลาว-จีนและลาว-ไทย ซึ่งจะช่วยให้บรรลุการเป็นศูนย์กลางความเชื่อมโยงในอนุภูมิภาคของทั้งสองประเทศ รวมทั้งยังมีการค้าการลงทุนระหว่างกันที่เพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะด้านไฟฟ้าพลังน้ำ นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศยังช่วยเหลือเกื้อกูลกันทั้งในยามที่มีภัยพิบัติและการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ทั้งนี้ สำหรับการครบรอบ 70 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ไทย – สปป. ลาว ทั้งสองประเทศจะเฉลิมฉลองวาระอันสำคัญยิ่งนี้ร่วมกันระหว่างวันที่ 19 ธันวาคม 2563 (ค.ศ. 2020) – 19 ธันวาคม 2564 (ค.ศ. 2021)

          ในโอกาสนี้ อุปทูตฯ ได้เชิญชวนดื่มอวยพรแด่นายบุนยัง วอละจิด ประธานประเทศ และถวายพระพรชัยมงคลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รวมทั้งเพื่อมิตรภาพและความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นยืนยาวระหว่างไทยกับ สปป. ลาว

          นอกจากนี้ ในปี 2563-2564 เป็นโอกาสเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – สปป. ลาว อุปทูตฯ และรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศแห่ง สปป. ลาว ได้ร่วมกันลั่นฆ้องชัย จำนวน 9 ครั้งเพื่อเปิดตัวตราสัญลักษณ์และเริ่มต้นการเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 70 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – สปป. ลาว ตราสัญลักษณ์ดังกล่าว ด้านซ้ายมือเป็นภาพพระธาตุศรีสองรักที่ อ.ด่านซ้าย จ.เลย สร้างโดยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิแห่งกรุงศรีอยุธยาร่วมกับพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช แห่งอาณาจักรล้านช้าง เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งมิตรไมตรี ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียว และเคารพซึ่งกันและกัน ระหว่างทั้งสองราชอาณาจักร ส่วนด้านขวามือเป็นภาพพระธาตุหลวงสีทองที่นครหลวงเวียงจันทน์ ซึ่งเป็นพระธาตุที่สำคัญและเป็นที่เคารพสักการะของ สปป.ลาว รวมทั้งเป็นที่เคารพของชาวไทย ถัดลงมาคือภาพธงชาติไทยและลาวคู่กัน และดอกราชพฤกษ์และดอกจำปาลาว ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำชาติของทั้งสองประเทศ

          ภายในงานเลี้ยงรับรองได้มีการแสดงจากวิทยาลัยศิลปศึกษา สปป. ลาว ในโอกาสพิเศษเฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย – สปป. ลาว รวมทั้งการขับร้องและบรรเลงบทเพลงพระราชนิพนธ์ เพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณและพระอัจฉริยภาพด้านดนตรีของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ตลอดจนเพลงร่วมสมัย โดยวง The Jazz Brothers รวมทั้งยังมีการสาธิตการทำอาหารไทยและการออกร้านเพื่อประชาสัมพันธ์อาหารและสินค้าไทยในงานโดยการสนับสนุนของภาคเอกชนไทยใน สปป. ลาว อย่างสามัคคีเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน

 

รูปภาพประกอบ

รูปภาพประกอบ